(รูปภาพตัวละคร “กริชคู่” จากสำนักเบญจพิษ)

           สำนักเบญจพิษ ผู้เชี่ยวชาญในการลอบสังหาร มาพร้อมกับกริชคู่ พวกเขาเน้นจู่โจมเป้าหมายอย่างเงียบงัน พร้อมเร้นกายหายไปก่อนที่เป้าหมายจะรู้ตัว

           สำนักเบญจพิษแบ่งสกิลได้ทั้งหมด 2 เซ็ต นั่นคือ เซ็ตสกิล “เงาเอกา” ซึ่งเป็นเซ็ตสกิลหลักในการ PVP มีทักษะการต่อสู้ระยะประชิด และ เซ็ตสกิล “ร้อยวิญญาณมรณะ” ซึ่งจะโดดเด่นในการโจมตีที่เป็นวงกว้าง เหมาะกับการลงดันเจี้ยน และโหมด PvE ต่าง ๆ
           ผู้เล่นสามารถสลับเซ็ตสกิลตามต้องการโดยเข้าไปที่ “หน้าต่างปรับโหมด PK” หรือสามารถเข้าไปที่เมนู “วิทยายุทธ์” และเลือกเซ็ตสกิลที่ต้องการใช้งานได้
 

สกิลพิเศษประจำสำนักเบญจพิษ

(เซ็ตสกิลพิเศษ)

สกิลท่าไม้ตาย-ห้าเซียนอมตะ (คูลดาวน์ 30 วินาที)
สุดยอดวิชาแห่งเบญจพิษ สร้างความเสียหายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ระหว่างที่ใช้สกิลนี้จะอยู่ในสถานะไร้เทียมทาน (ไม่สามารถใช้ในโหมดประชันยุทธ์ได้)

สกิลท่าพิฆาต-วายุอสนี (คูลดาวน์ 20 วินาที)
สังหารเป้าหมายที่ติดสถานะอ่อนแอ และฟื้นฟู HP ตัวเอง

สกิลหลบหนี-เงาพราย (คูลดาวน์ 26 วินาที)
ปลดผนึกการควบคุม และสร้างความเสียหายแก่ศัตรูรอบ ๆ

สกิลปัดป้อง-เงาลมพิษ (คูลดาวน์ 16 วินาที)
สกิลปัดป้อง หากถูกโจมตีขณะที่สะสมพลังใน 3 วิ. จะปัดป้องการโจมตีของศัตรู และลดดาเมจ 80%
ปัดป้อง-โจมตีกลับ: เมื่อปัดป้องสำเร็จ สามารถใช้สกิลโจมตีกลับเพื่อกดดันเป้าหมาย

สกิล Active เซ็ต PvP

(สกิล Active เซ็ต PvP)

กางเขนจันทรา (คูลดาวน์ 1 วินาที)
กระบวนท่านี้มี 3 ท่า ใช้โจมตีต่อเนื่องเพื่อทำคอมโบ จะสร้างความเสียหายหมู่ใส่พื้นที่ด้านหน้า 
ปลิดวิญญาณ: เมื่อใช้สกิลปลิดวิญญาณโจมตีโดนเป้าหมาย สกิลกางเขนจันทราจะเปลี่ยนเป็นสกิล มีดดารา ซึ่งจะตีลอยเป้าหมาย

จิตคลั่ง (คูลดาวน์ 14 วินาที)
เคลื่อนตัวไปสร้างความเสียหายหมู่แก่ศัตรูในพื้นที่อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้สกิลนี้แล้วใช้ สายลมพัดผ่าน(กลิ้ง)  จะกลิ้งออกมาตำแหน่งเดิมและสร้างความเสียหายหมู่รอบที่ 2
ตั้งหลัก: ระหว่างใช้สกิล หากได้รับความเสียหาย จะถอยออกมาอัตโนมัติ ขณะสร้างความเสียหายหมู่รอบที่สอง จะได้รับเอฟเฟกต์ไม่ได้รับความเสียหายและสถานะกดดัน เป็นเวลา 0.5 วิ
กลืนวิญญาณ: ระหว่างใช้สกิลจะฝังปรสิตวิญญาณใส่ศัตรูต่อเนื่อง 2 ครั้ง
แต้มพิษ: โจมตีโดนสองครั้งจะเพิ่ม 10/15แต้มพิษตามลำดับ

นางแอ่นชิงถ้วย (คูลดาวน์ 12 วินาที)
กระโดดบินแล้วโจมตีหมู่ใส่เป้าหมายในพื้นที่
ล่าวิญญาณ: เมื่อใช้สกิล หากมีศัตรูที่มีปรสิตวิญญาณในระยะ 30 ม. วิหคหวนจะใช้งานในบริเวณที่ศัตรูอยู่อัตโนมัติ
วิหคหวน: ขณะใช้สกิลนี้จะไม่สามารถถูกควบคุมได้
ตั้งมั่น: หากใช้สกิลรอบที่ 2 โดนเพียงเป้าหมายเดียว จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติม 50%

ปลิดวิญญาณ (คูลดาวน์ 20 วินาที)
พุ่งประชิดศัตรูและโจมตีต่อเนื่อง
มีดดารา: เมื่อโดนเป้าหมายแล้วใช้กางเขนจันทราจะตีลอยศัตรู
ลมพิษ: โดนเป้าหมายจะเพิ่มลมพิษ 40 หน่วย

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลปลิดวิญญาณ-
ขั้นที่ 1: มอบสถานะกดดันเมื่อโจมตีโดนเป้าหมาย
ขั้นที่ 2: เพิ่มความเสียหายเกราะ 15%
ขั้นที่ 3: เมื่อโจมตีโดนเป้าหมายจะลดเวลาคูลดาวน์สกิลจิตคลั่งลง 5 วินาที

ปักษาพิฆาต (คูลดาวน์ 20 วินาที)
กระบวนท่านี้มี 6 ท่า ใช้โจมตีต่อเนื่องเพื่อทำคอมโบ จะสร้างความเสียหายและสร้างสถานะกดดันแก่เป้าหมาย

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลปักษาพิฆาต-
ขั้นที่ 1: เพิ่มความเสียหายแก่เป้าหมายทั่วไป 15% และเพิ่มอีก 10% เมื่อใช้ใส่เป้าหมายไร้เทียมทาน
ขั้นที่ 2: เพิ่มความเสียหายแก่เป้าหมายที่โดนสกิลทัณฑ์อสรพิษ 15%
ขั้นที่ 3: ลดระยะเวลาคูลดาวน์ลง 2 วินาที

ร้อยเดรัจฉาน (คูลดาวน์ 60 วินาที)
ใช้แล้วจะล่องหน เป็นเวลา 5 วิ.หากใช้สกิลอื่นหรือถูกโจมตี จะหลุดออกจากสถานะล่องหน
วิญญาณมรณะ: หลังเข้าสู่สถานะล่องหนจะสามารถหลบความเสียหายและสกิลเป็นเวลา 2 วินาที.  
กลค้างคาว: หลังจากล่องหนจะทำให้เป้าหมายรอบ ๆ รับรู้ ทุกครั้งที่ถูกรับรู้จะยืดเวลาล่องหน 1 วิ. หากทำสำเร็จ 3 ครั้งจะเพิ่มเวลาล่องหน 0.5 วิ. และ ล็อก เป้าหมายไม่ให้ใช้วิชาตัวเบาได้ 5 วิ.
เงาพิฆาต: เมื่อใช้กลค้างคาวล็อกเป้าหมายสำเร็จและใช้กางเขนจันทราจะเกิดสกิล เงาพิฆาต สร้างความเสียหายจำนวนมากและลดคูลดาวน์สกิล ปักษาพิฆาต 7 วิ.

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลร้อยเดรัจฉาน-
ขั้นที่ 1: เพิ่มระยะค้นหาเป็น 16 เมตร
ขั้นที่ 2: สามารถใช้สกิลภายใต้สถานะกดดันได้
ขั้นที่ 3: สกิลเงาพิฆาตจะสร้างความเสียหายเพิ่ม 15% และมอบสถานะกดดันแก่เป้าหมาย

หมอกอสูร (คูลดาวน์ 10 วินาที)
ปลดล็อกเมื่อเข้าสู่สถานะต่อสู้ ทิ้งระยะห่างกับศัตรูและสร้างความเสียหายหมู่
ซ่อนดาบ: เมื่อกางเขนจันทราโจมตีโดนเป้าหมาย จะลดคูลดาวน์หมอกอสูร 4 วิ.
ลมพิษ: เมื่อโจมตีโดนเป้าหมาย จะเพิ่มลมพิษ 10 หน่วย

ทัณฑ์อสรพิษ (คูลดาวน์ 18 วินาที)
ทำการปล่อยสกิลเมื่อ ลมพิษเต็ม เมื่อใช้สกิลแล้ว จะทำการใช้ลมพิษที่มีอยู่ทั้งหมด และโจมตีเป้าหมายแบบกลุ่มด้านหน้าอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายพร้อมกับดึงเป้าหมายที่โดนสกิลทั้งหมดไปที่ด้านหน้า

สกิล passive เซ็ต PvP

(สกิล passive เซ็ต PvP)

ห่มลม
หลังจากโจมตีโดนศัตรูจะรีเฟรชเวลาคูลดาวน์กลิ้งตัวใหม่ กลิ้งตัวใน 3 วิ.จะเปลี่ยนเป็นเคลื่อนตัวระยะสั้นอย่างรวดเร็ว

กลืนวิญญาณ
สกิล จิตคลั่ง ทัณฑ์อสรพิษ และ ปลิดวิญญาณ จะเกิดเอฟเฟกต์ปรสิตวิญญาณ
ผ่านไป 10 วิ. ปรสิตวิญญาณจะระเบิด สร้างความเสียหายและลดความเร็วศัตรู

ตัดชะตา
CRIT DMG ของเบญจพิษเพิ่มขึ้น 10%

สกิล Active เซ็ต PvE

(สกิล Active เซ็ต PvE)

กางเขนจันทรา (คูลดาวน์ 1 วินาที)
กระบวนท่านี้มี 3 ท่า ใช้โจมตีต่อเนื่องเพื่อทำคอมโบ จะสร้างความเสียหายหมู่ใส่พื้นที่ด้านหน้า 
ปลิดวิญญาณ: เมื่อใช้สกิลปลิดวิญญาณโจมตีโดนเป้าหมาย สกิลกางเขนจันทราจะเปลี่ยนเป็นสกิล มีดดารา ซึ่งจะตีลอยเป้าหมาย

จิตคลั่ง (คูลดาวน์ 8 วินาที)
พุ่งโจมตีใส่เป้าหมายในพื้นที่ สร้างความเสียหาย เกิดสถานะไร้เทียมทาน เมื่อใช้สกิลนี้แล้วใช้ สายลมพัดผ่าน(กลิ้ง) จะกลิ้งออกมาตำแหน่งเดิมและสร้างความเสียหายหมู่ครั้งที่สอง
กลืนวิญญาณ: ระหว่างใช้สกิลจะใช้แต้มพิษเพื่อระเบิดปรสิตวิญญาณ สร้างความเสียหายเพิ่มเติม

นางแอ่นชิงถ้วย (คูลดาวน์ 20 วินาที)
กระโดดบินแล้วโจมตีหมู่ใส่เป้าหมายในพื้นที่ สร้างความเสียหาย
วิหค: ขณะใช้สกิลนี้จะไม่สามารถถูกควบคุมได้
จิตคลั่ง: เมื่อโจมตีโดนเป้าหมาย จะรีเฟรชคูลดาวน์จิตคลั่ง
พินาศ: ยิ่งโจมตีโดนเป้าหมายเยอะยิ่งเพิ่มความเสียหาย

ทัณฑ์อสรพิษ (คูลดาวน์ 22 วินาที)
พุ่งโจมตีศัตรูอย่างรวดเร็ว สร้างความเสียหายและดึงเป้าหมายเข้าหาตัว

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลทัณฑ์อสรพิษ-
ขั้นที่ 1: เพิ่มความเสียหายเมื่อใช้สกิลไร้เทียมทาน 50%
ขั้นที่ 2: ลดความเร็วเป้าหมายลง 5 วินาที
ขั้นที่ 3: เพิ่มความเสียหายเมื่อโจมตีเป้าหมายที่ไม่ใช่ผู้เล่น

พญาสังหาร (คูลดาวน์ 25 วินาที)
สร้างความเสียหายแก่ศัตรูในระยะ
ใยทมิฬ: เมื่อใช้สกิลโจมตีโดนเป้าหมาย จะสามารถใช้สกิลใยทมิฬได้

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลพญาสังหาร-
ขั้นที่ 1: เมื่อใช้สกิลโจมตีถูกเป้าหมายจะฟื้นฟูแต้มพิษ
ขั้นที่ 2: สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีโดนเป้าหมายเดี่ยว
ขั้นที่ 3: เพิ่มจำนวนเป้าหมาย

ร้อยเดรัจฉาน (คูลดาวน์ 50 วินาที)
ใช้แล้วจะล่องหน เป็นเวลา 3.5 วิ. และมอบสถานะลดความเสียหายให้ตัวเอง 20% เป็นเวลา 15 วิ. หากใช้สกิลใด ๆ ในระหว่างนั้น จะหมดสถานะล่องหนทันที
วิญญาณมรณะ: เมื่อเข้าสถานะล่องหนเป็นเวลา 3.5 วิ. จะหลีกเลี่ยงความเสียหายส่วนใหญ่ได้ จะไม่หลุดจากสถานะล่องหนหากถูกโจมตี
กลค้างคาว: หลังจากล่องหนจะทำให้เป้าหมายรอบ ๆ รับรู้ ทุกครั้งที่ถูกรับรู้จะยืดเวลาล่องหน 2 วิ. แต่จะไม่ยืดเวลาวิญญาณมรณะ เมื่อเวลาล่องหนเพิ่มขึ้น 3.5 วิ. แล้วถูกโจมตีสถานะล่องหนจะหายไป
กาฝาก: ใช้แล้วจะเกิดสกิล กลปรสิต เมื่อใช้กลปรสิตโดนเป้าหมายจะสร้างสถานะพิษปรสิตและรีเฟรชคูลดาวน์สกิลพญาสังหารเพื่อพุ่งประชิดโจมตีเป้าหมายเดี่ยว

-เอฟเฟกต์พิเศษสกิลร้อยเดรัจฉาน-
ขั้นที่ 1: เพิ่มความเร็วขณะล่องหน
ขั้นที่ 2: เมื่อใช้สกิลกลปรสิตโจมตี เป้าหมายจะถูกลดคว่ามเร็วและห้ามใช้วิชาตัวเบา
ขั้นที่ 3: ตัดฮิลและเพิ่มความเสาียหายที่ทำได้ 15%

หมอกอสูร (คูลดาวน์ 8 วินาที)
สร้างความเสียหายเดี่ยวใส่ศัตรูและสร้างความเสียหายเพิ่มเติมกับเป้าหมายที่ไม่ใช่ผู้เล่น
จันทรา: เมื่อกางเขนจันทราโจมตีรอบที่สามถูกเป้าหมายจะลดคูลดาวน์ หมอกอสูร 3 วิ.

ใยทมิฬ (คูลดาวน์ 3 วินาที)
พุ่งประชิดสร้างความเสียหายใส่เป้าหมาย

สกิล Passive เซ็ต PvE

(สกิล Passive เซ็ต PvE)

ห่มลม
หลังจากโจมตีโดนศัตรูจะรีเฟรชเวลาคูลดาวน์กลิ้งตัวใหม่ กลิ้งตัวใน 3 วิ.จะเปลี่ยนเป็นเคลื่อนตัวระยะสั้นอย่างรวดเร็ว

ห่มวิญญาณ
สกิล จิตคลั่ง สามารถใช้แต้มพิษเพื่อระเบิดปรสิตวิญญาณ สร้างความเสียหายเพิ่มเติมแก่ศัตรูได้ หมอกอสูร จะกลายเป็นสกิลพุ่งโจมตีเดี่ยว

ห่มปักษา
สกิล วิหคหวน เปลี่ยนเป็นสกิลเลือกบริเวณที่จะโจมตี ยิ่งโดนเป้าหมายเยอะยิ่งเพิ่มความเสียหาย โจมตีโดนเป้าหมายแล้วจะรีเฟรชคูลดาวน์จิตคลั่ง

เทคนิคการ PVP ของสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

           จุดเด่นในการ PVP ของสำนักเบญจพิษคือการเน้นการสร้างจังหวะ เข้าและออกที่รวดเร็ว ด้วยเซ็ตสกิล “เงาเอกา” ที่เน้นในด้านความคล่องตัว จึงทำให้สำนักเบญจพิษโดดเด่นในการสร้างความปั่นป่วนให้ศัตรูจากนั้นจึงทำการเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องในจังหวะที่ศัตรูเปิดช่องว่าง และเอาชนะไปอย่างง่ายดาย

พลังสำคัญของสำนักเบญจพิษ

สำนักเบญพิษมาพร้อมกับวิชาลับ “แต้มพิษ” ซึ่งจะถูกสะสมเมื่อพวกเขาใช้งานสกิลต่าง ๆ เมื่อแถบพลังแต้มพิษเต็ม สำนักเบญจพิษจะสามารถใช้สกิล “ทัณฑ์อสรพิษ” ได้

(ลูกศรสีแดง แสดงแถบแต้มพิษ)

(ไอคอนแสดงสกิล “ทัณฑ์อสรพิษ” เมื่อแถบพลัง แต้มพิษ เต็ม)

1.ห่มลม

สกิลติดตัวสำคัญของสำนักเบญจพิษ สกิล“ห่มลม” เมื่อทำการโจมตีศัตรู จะทำการรีเฟรชคูลดาวน์กลิ้งตัว ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นการเคลื่อนตัวระยะสั้นอย่างรวดเร็ว

• โจมตีโดนเป้าหมาย > ห่มลม

2.ตีลอย

เมื่อสำนักเบญจพิษใช้สกิล “ปลิดวิญญาณ” สกิลกางเขนจันทรา(ตีปกติ) จะถูกเปลี่ยนเป็นสกิล “มีดดารา” ซึ่งเมื่อใช้งานจะสามารถตีลอยศัตรูได้

• ปลิดวิญญาณ > มีดดารา > กางเขนจันทรา(x3)

3.กดดัน

สำนักเบญจพิษสามารถใช้สกิล “ร้อยเดรัจฉาน” เพื่อเข้าสู่สถานะหายตัว หลังจากหายตัวแล้วจะทำการล็อกเป้าหมาย 3 ครั้ง สกิลกางเขนจันทราจะเปลี่ยนเป็นสกิล “เงาพิฆาต” ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงและกดดันเป้าหมาย

• ร้อยเดรัจฉาน > เงาพิฆาต

(ภาพแสดงการใช้งานสกิล เงาพิฆาต)

4.คอมโบเป้าหมายเดี่ยว

สำนักเบญจพิษสามารถโจมตีเป้าหมายเดี่ยวได้อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง เริ่มจากการเก็บแต้มพิษให้เต็ม และดึงเป้าหมายเข้ามาหาตัวด้วยสกิล “ทัณฑ์อสรพิษ” จากนั้นใช้สกิลนางแอ่นชิงถ้วยเพื่อเข้าประชิดตัว หลังจากเข้าประชิดตัวแล้วจึงใช้สกิลกางเขนจันทราและสกิล หมอกอสูร จากนั้นจึงปิดท้ายด้วยสกิลปักษาพิฆาต

• ทัณฑ์อสรพิษ > นางแอ่นชิงถ้วย > กางเขนจันทรา(x2) > หมอกอสูร > ปักษาพิฆาต(x6)

เทคนิคการลงดันเจี้ยนของสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

สำนักเบญจพิษสามารถใช้สกิล “ร้อยวิญญาณมรณะ” ซึ่งจะเน้นในการโจมตีเป้าหมายจำนวนมาก ซึ่งจะเหมาะกับการลงดันเจี้ยน เนื่องจากมีสกิลเข้าประชิดตัวและสกิลโจมตีเป้าหมายไร้เทียมทาน

1.คอมโบโจมตีหมู่

หลังจากที่สำนักเบญจพิษใช้สกิลจิตคลั่งและใช้สกิลห่มลม(กลิ้ง)ออกจากบริเวณเป้าหมาย สกิลจิตคลั่งจะสร้างความเสียหายหมู่ในตำแหน่งเดิมอีกครั้ง หลังจากที่กลิ้งออกมาแล้ว ใช้สกิลนางแอ่นชิงถ้วยเพื่อเข้าประชิดตัวศัตรูอีกครั้ง พร้อมทั้งรีเซ็ตคูลดาวน์สกิลจิตคลั่ง ทำให้สามารถคอมโบด้วยสกิลจิตคลั่งและห่มลม(กลิ้ง)ต่อได้อีกครั้ง ซึ่งจะสร้างความเสียหายจำนวนมาก

• จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง) > นางแอ่นชิงถ้วย > จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง)

2.เข้าประชิดตัวเป้าหมาย

สกิลหลักในการเข้าหาเป้าหมายของสำนักเบญจพิษคือสกิล “พญาสังหาร” และ “ใยทมิฬ” ซึ่งจะเข้าประชิดตัวเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นสามารถใช้คอมโบจิตคลั่งเพื่อรีดความเสียหายได้

• พญาสังหาร > ใยทมิฬ > จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง) > นางแอ่นชิงถ้วย > จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง)

3.โจมตีเป้าหมายเดี่ยว

หลังใช้สกิล “ร้อยเดรัจฉาน” แล้วจะเกิดสกิล “กลปรสิต” หลังจากใช้สกิลกลปรสิตแล้ว สำนักเบญจพิษจะทำการฝังปรสิตเข้าไปในร่างของเป้าหมาย จากนั้นจึงทำการใช้สกิล “ทัณฑ์อสรพิษ” ดึงเป้าหมายเข้่ามาใกล้ตัวและโจมตีด้วยคอมโบสกิลจิตคลั่งเพื่อสร้างความเสียหายจำนวนมากและเพิ่มแต้มพิษให้กับสกิลกลปรสิต เมื่อครบเวลาแล้วจะระเบิดและส้รางความเสียหายจำนวนมาก

• ร้อยเดรัจฉาน > กลปรสิต > ทัณฑ์อสรพิษ > จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง) > นางแอ่นชิงถ้วย > จิตคลั่ง > ห่มลม(กลิ้ง)

การอัปเกรดตัวละครสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

สเตตัสที่แนะนำของสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

สเตตัสหลัก
DEX: แต้ม DEX จะช่วยเพิ่มค่า CRIT และ พลังโจมตี ซึ่งส่งผลให้สำนักเบญจพิษโจมตีได้แรงขึ้น
CON: แต้ม CON จะช่วยเพิ่ม พลังชีวิต Crit/ Echo rate RES ทำให้สำนักเบญจพิษสามารถอยู่ในการต่อสู้ได้นานมากขึ้น

สเตตัสรอง
CRIT: ค่า CRIT จะเพิ่มผลการฟื้นฟูและความแรงของสกิล นอกจากนี้ขณะร่ายสกิล ยังมีโอกาสที่จะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมด้วย
HP: การเพิ่มพลังชีวิตจะทำให้เราอยู่ในการต่อสู้ได้นานขึ้น

พลังภายในที่แนะนำสำหรับสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

Active

• รากฐานยุทธ์: เพิ่ม DEX และ SPR
  เป็นสกิลที่สร้างความเสียหายในระยะที่กำหนด เหมาะในการเก็บเลเวลช่วงแรก
• ยุทธภพ-เหมันต์: เพิ่ม CON และ VIT
  เพิ่ม HP จำนวนหนึ่ง และลดดาเมจที่เพื่อนร่วมทีมได้รับ เป็นเวลา 15 วินาที

Passive

• ฝึกยุทธ์-กำลัง: เพิ่ม DEX+10
  เมื่อปลดล็อกสกิลติดตัว จะเพิ่มค่า DEX ให้ตัวละคร เหมาะสำหรับเพิ่มดาเมจ
• ฝึกยุทธ์-พลังกาย: เพิ่ม VIT+10
  เมื่อปลดล็อกสกิลติดตัว จะเพิ่มค่า VIT ให้ตัวละคร เหมาะสำหรับเพิ่มพลังป้องกัน 
• สนทนาธรรม: เพิ่ม DEX และ VIT
  ลดดาเมจที่ได้รับ เมื่อ HP ต่ำกว่า 50% จะเพิ่มผลเอฟเฟกต์มากขึ้น
• เหินเมฆา: เพิ่ม HP และ ATK
  เพิ่มดาเมจให้ตนเอง และเพิ่มดาเมจเมื่อโจมตีศัตรูที่มีสถานะไร้เทียมทาน
• ธงพริ้วไหว: เพิ่ม CRIT และ ECHO
  เมื่อโจมตีผู้เล่นหรือถูกผู้เล่นโจมตีจะเพิ่มค่าจิตสังหาร และเพิ่มดาเมจจากจิตสังหาร
• นิพพาน เพิ่ม CON และ VIT
  ลดดาเมจที่ตัวเองได้รับ
   

ศิลายุทธ์ที่แนะนำสำหรับสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

ผู้เล่นสามารถติดตั้งศิลายุทธ์ เพื่อเสริมความสามารถให้ตัวละครได้ตามใจ ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกศิลายุทธ์ได้มากถึงสามชนิด ทั้งศิลายุทธ์แบบกลม สามเหลี่ยม และ สี่เหลี่ยม

(หน้าต่างแสดงระบบศิลายุทธ์)

ศิลายุทธ์แบบกลม
ศิลายุทธ์แบบกลมจะเน้นไปทางด้านการเสริมค่าสเตตัสหลัก ซึ่งแนะนำให้เลือกใช้ ศิลายืนหยัด III ที่จะเพิ่มค่า DEX CON และ VIT เป็นหลัก

ศิลายุทธ์แบบสามเหลี่ยม
ศิลายุทธ์แบบสามเหลี่ยมจะเน้นไปทางด้านการเสริมค่าสเตตัสรองด้านการโจมตี ซึ่งแนะนำให้เลือกใช้ ศิลาทะลวง III ที่เพิ่มค่า ATK และ CRIT เป็นหลัก

ศิลายุทธ์แบบสี่เหลี่ยม
ศิลายุทธ์แบบสี่เหลี่ยมจะเน้นไปทางด้านการเสริมค่าสเตตัสรองด้านการป้องกัน ซึ่งแนะนำให้เลือกใช้ ศิลามั่นคง III ที่เพิ่มค่า HP และ Crit/Echo rate RES เป็นหลัก

สกิลกิลด์ที่แนะนำของสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

สกิลกิลด์ระดับต้น จะสามารถเรียนรู้เพื่อเพิ่มสเตตัสหลัก แนะนำให้อัป DEX ก่อนแล้วตามด้วย VIT, CON และ SPR
สกิลกิลด์ระดับกลาง จะสามารถเรียนรู้เพื่อเพิ่มสเตตัสรอง แนะนำให้อัป CRIT ก่อนแล้วตามด้วย CRIT/Echo Rate RES
สกิลกิลด์ระดับสูง จะสามารถเรียนรู้เพื่อเพิ่มสเตตัสที่เน้นไปทางด้านการป้องกัน สามารถอัปได้ทั้งคู่ หากผู้เล่นเน้นดาเมจแนะนำให้อัปต้านทานโจมตี หากผู้เล่นเน้นพลังชีวิตและค่าป้องกันแนะนำให้อัป Max HP
สกิลกิลด์ระดับยอด เมื่อเรียนรู้แล้วจะเพิ่มสเตตัสรวม แนะนำให้อัปสเตตัสรวมก่อน แล้วค่อยเน้นไปที่สเตตัสฝั่ง PVP
หมายเหตุ: เงื่อนไขและวิธีการปลดล็อกสกิลกิลด์ สามารถดูได้เพิ่มเติมที่หัวข้อกิลด์

ออปชั่นที่แนะนำสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

ออปชั่นหลักที่สำนักเบญจพิษควรเน้นก็คือ DEX / CON มีแนวทางการเลือกใช้ออปชั่นดังนี้

• อาวุธหลัก/อาวุธรอง/สร้อย/แหวน/แหวน/จี้ เน้นไปทาง DEX เพื่อเสริมพลังโจมตีตั้งต้นให้แรงมากขึ้น 
• ส่วนหัว/ชุด/ชุดคลุม/ปลอกแขน เน้นไปทาง CON เพื่อเสริมพลังป้องกันให้ตัวเอง
• ส่วนรองเท้าและผ้าคาดสามารถเน้นตามสายที่ต้องการเล่น เช่นหากต้องการเสริมเรื่องพลังป้องกันให้เน้นไปทางสเตตัส VIT หรืออยากเสริมพลังโจมตีให้เน้นไปทางสเตตัส DEX ก็ได้
• หากต้องการเน้นไปทาง PVP ก็สามารถเลือกช่องออปชั่นที่ 3 ของทุกช่องให้เป็น PVP DMG หรือ PVP DEF ก็ได้เช่นกัน

รูนที่แนะนำสำหรับสำนักเบญจพิษ (กริชคู่)

การใส่รูนให้ถูกต้องตามโบนัสสเตตัสในชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่กำหนดก็ถือเป็นการเพิ่มพลังให้ยอดฝีมือและรีดศักยภาพคุณสมบัติของรูนได้เป็นอย่างมาก และนี่ก็คือข้อมูลการเลือกใช้รูนเบื้องต้นที่ผู้เล่นสำนักเบญจพิษต้องรู้เอาไว้

• ชิ้นส่วนอุปกรณ์อาวุธหลัก, อาวุธรอง, สร้อยคอ, แหวน, ปลอกแขนและเข็มขัด: จะเพิ่มโบนัสสเตตัส ATK, DEX, SPR, สเตตัสโจมตีและสเตตัสพิเศษ ควรใส่เซ็ตรูนนภาเพื่อเพิ่มโบนัสสเตตัสโจมตีให้มากขึ้น
• ชิ้นส่วนอุปกรณ์หัว, ท่อนบน, ผ้าคาด, ประดับ, กำไลและท่อนล่าง: จะเพิ่มโบนัสสเตตัส HP, VIT, CON, สเตตัสป้องกันและสเตตัสพิเศษ ซึ่งอยู่ในอุปกรณ์หัว, ท่อนบน, ผ้าคาด, ประดับ, กำไลและท่อนล่าง ควรใส่เซ็ตรูนพิภพเพื่อเพิ่มโบนัสสเตตัสโจมตีให้มากขึ้น

รูนนภา
ในการติดตั้งรูนนภา สามารถติดตั้งร่วมกับรูนนภาและรูนโลกาเท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งร่วมกับรูนพิภพได้ ซึ่งรูนที่แนะนำมีดังนี้
- รูน [นภา] พิรุณ เพิ่ม DEX และ VIT
- รูน [นภา] วายุ เพิ่ม DEX และ CON
- รูน [นภา] เมฆา เพิ่ม DEX และ SPR (สายดาเมจ)
- รูน [นภา] ขอบฟ้า เพิ่ม ATK, DEX และ CRIT
- รูน [นภา] สวรรค์ เพิ่ม ATK, SPR และ DEX
- รูน [นภา] รุ่งอรุณ เพิ่ม ATK, PVP DMG และ CRIT DMG (สาย PVP)
- รูน [นภา] ราตรี เพิ่ม Crit, Echo และ PVP DMG (สาย PVP) 

รูนพิภพ
ในการติดตั้งรูนพิภพ สามารถติดตั้งร่วมกับรูนพิภพแลละรูนโลกาเท่านั้น ไม่สามารถติดตั้งร่วมกับรูนนภาได้ ซึ่งรูนที่แนะนำมีดังนี้
- รูน [พิภพ] พสุธา เพิ่ม DEX และ VIT
- รูน [พิภพ] เหล็กไหล เพิ่ม DEX และ CON
- รูน [พิภพ] ป่าไผ่ เพิ่ม HP, P.DEF, M.DEF และ CON
- รูน [พิภพ] ดอกเหมย เพิ่ม M.DEF, P.DEF, Crit res, Echo res และ PVP DEF (สาย PVP)
- รูน [พิภพ] เบญจมาศ เพิ่ม Crit res, Echo res, Crit DMG res, Echo DMG res และ PVP DEF (สาย PVP) 

รูนโลกา
รูนโลกา สามารถติดตั้งได้กับทั้ง รูนพิภพ และรูนนภา ซึ่งรูนที่แนะนำมีดังนี้
- รูน [โลกา] ทะลวง เพิ่ม DEX และ CRIT
- รูน [โลกา] เกราะ เพิ่ม VIT, CON และ Crit/Echo rate RES
- รูน [โลกา] ธรรม เพิ่ม CRIT, PVP DMG, PVP DEF, Crit res และ Echo res (สาย PVP)