สวัสดีคร้าบ วันนี้เสี่ยวเอ้อจะมาแนะนำดันเจี้ยนท้าทายใหม่ล่าสุดจากเกม Garena Moonlight Blade กัน และดันเจี้ยนใหม่นี้มีชื่อว่า ดันเจี้ยนท้าทาย - วังซิ่วที (ยาก) โดยจะอัปเกรดระดับความยากเพิ่มขึ้นจาก ดันเจี้ยนท้าทาย - วังซิ่วที (ทั่วไป) เอาล่ะ เราไปดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า!

ภายในดันเจี้ยนระดับความยากนี้ จะมีเหล่าจอมยุทธ์เลืองชื่อที่ถูกอัปเกรดความสามารถมาจาก ดันเจี้ยนท้าทาย - วังซิ่วที (ทั่วไป) ฺต่อไป เรามาดูเทคนิคการพิชิตบอสกันเถอะ!

                                                                                                                                                        อี้น้ำปวย                                      เซียวสีบอ                                    เม้งง้วยซิม                                   กงจื้ออู้

บอสตัวที่ 1 : อี้น้ำปวย
บุรุษผู้ล่วงลับ ผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม เขากลับมาสู่ดันเจี้ยนนี้ในฐานะบอสตัวแรก โดยรวมแล้วการต่อสู้ รวมถึงเทคนิคการพิชิตบอสอี้น้ำปวยจะไม่ยากนัก เนื่องจากเป็นบอสที่ออกสกิลค่อนข้างช้า และส่วนมากจะเป็นสกิลเดี่ยว และในระดับความยากสกิล AOE ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถยืนหลบได้แล้ว

สกิล 1 : กระบี่กุหลาบ
บอสจะโจมตีใส่ผู้เล่นรอบๆ ตัวอย่างต่อเนื่อง เมื่อเพื่อนเราโดนสกิลนี้โจมตีเราสามารถเลือกที่จะออกห่างเพื่อหลบ หรือเข้าไปใกล้เพื่อแชร์ความเสียหายกับเพื่อนได้

สกิล 2 : จิตกระบี่
บอสจะล็อกเป้าผู้เล่นหนึ่งคนแล้วปากระบี่ใส่ เมื่อกระบี่โจมตีถูกผู้เล่นก็จะระเบิดทันที หลังจากออกสกิลครั้งแรก กระบี่จะเลือกโจมตีใส่ผู้เล่นที่เคยโดนสกิลก่อนหน้าเป็นอันดับแรก เพื่อนร่วมทีมสามารถเอาตัวเข้าไปรับความเสียหายแทนเพื่อนได้ แต่เพื่อนที่มารับแทนก็จะกลายเป็นเป้าหมายของสกิลในครั้งถัดไป

ข้อควรระวัง: ความเสียหายของสกิลสามารถทับซ้อนได้ หากโดนสกิลในครั้งต่อไป ความเสียหายที่ได้รับจะรุนแรงถึงตายได้ เพราะฉะนั้นหากรักเพื่อนก็อย่าลืมไปบังกระบี่ให้เพื่อนด้วยล่ะ!

สกิล 3 : ค่ายกลกระบี่
การอัญเชิญค่ายกระบี่ของบอสนั้นจะมีทั้งหมด 4 ระยะ
ระยะที่ 1 บอสจะยังไม่อัญเชิญกระบี่
ระยะที่ 2 บอสจะอัญเชิญกระบี่อัสนีออกมา
ระยะที่ 3 จะอัญเชิญกระบี่เพลิงและน้ำแข็งออกมา
ระยะที่ 4 จะอัญเชิญกระบี่วายุออกมา โดยค่ายกระบี่ทั้งสี่ของบอสนั้นจะมีเอฟเฟกต์แตกต่างกันออกไปดังนี้

1) กระบี่อัสนี สร้างดาเมจต่อผู้เล่นที่อยู่ในรัศมีของค่ายกลกระบี่อัสนี
2) กระบี่เพลิง จะทำให้ผู้เล่นติดสถานะเผาไหม้และสร้างความเสียหายไปเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในค่ายกลนานเท่าไหร่ระดับความรุนแรงของเอฟเฟกต์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีระดับสูงสุดอยู่ที่ 10 (ไฟจะดับลงเมื่อวิ่งเข้าค่ายกลกระบี่น้ำแข็ง)
3) กระบี่น้ำแข็ง จะทำให้ผู้เล่นเคลื่อนที่ช้าลงเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในค่ายนานเท่าไหร่ระดับความรุนแรงของเอฟเฟกต์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีระดับสูงสุดอยู่ที่ 10 (เอฟเฟกต์จะหายไปเมื่อเข้าไปในค่ายกลกระบี่เพลิง)
4) กระบี่วายุ นอกจากจะสร้างความเสียหายแก่เราแล้ว หากตัวเราติดเอฟเฟกต์ของไฟหรือน้ำแข็ง พายุจะทำให้ความรุนแรงของเอฟเฟกต์นั้นอยู่ในระดับสูงสุด

สกิล 4 : ปราณกระบี่แปดทิศ
บอสจะปล่อยกระบี่ออกมาแปดทิศสองรอบ ในรอบแรกเราจะต้องจับจังหวะกระโดดขึ้นเพื่อหลบ จากนั้นบอสจะปล่อยกระบี่รอบที่สองต่อ ในรอบที่สองจะไม่สามารถยืนหลบได้แล้ว แต่ต้องกระโดดสามขั้นเพื่อหลบเท่านั้น

สกิล 5 : ภูตผกาเบ่งบาน
สกิลใหม่ของบอสที่มีเฉพาะในระดับยากเท่านั้น ซึ่งบอสจะอัญเชิญวิญญาณบุปผาที่ใต้เป้าหมายหลังสะสมพลัง โดยทำดาเมจต่อศัตรูบนพื้นดิน

บอสตัวที่ 2 : เซียวสีบอ
ชายหนุ่มชั้นสูง ฐานะเป็นถึงองค์ชายแห่งลั่วหยาง ผู้หลงใหลมัวเมา ในดันเจี้ยนนี้เขากลับมาในฐานะหุ่นเชิดของเม้งง้วยซิม

สกิล 1 : ด้ายแขวนวิญญาณ
บอสจะเรียกเส้นด้ายพร้อมกลกับดักออกมาล้อมรอบสองวง โดยที่เส้นด้ายจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่นที่โดนมัน ส่วนกลกับดักจะมีเวลานับถอยหลัง หากเวลาหมดลงกลกับดักจะระเบิดสร้างความเสียหายให้ผู้เล่นเป็นจำนวนมาก

เพิ่มเติม: สกิลมีดบินของบอสสามารถขจัดกลกับดักและเส้นด้ายได้ ให้ผู้เล่นที่ถูกมีดบินล็อกเป้าล่อมีดบิน ไปตัดเส้นด้ายให้หมด

สกิล 2 : มีดบินไล่ล่า
บอสจะปามีดบินออกไปเป็นเส้นตรง และจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่นที่โดน
เพิ่มเติม: มีดบินสามารถตัดเส้นด้ายทำลายกลกับดักได้

สกิล 3 : หัตถ์วิญญาณ
ขั้นที่ 1 - บอสจะเรียกหมอกดำมาจู่โจมตัวผู้เล่น ผู้เล่นที่ถูกหมอกดำจู่โจมนอกจากจะได้รับความเสียหายไปเรื่อยๆ แล้ว ยังไม่สามารถใช้สกิลอะไรได้อีกด้วย ผู้เล่นจะต้องแก้โดยการไปยืนในวงค่ายกลสีเขียวเพื่อปลดผนึก แต่หลังจากปลดผนึกเสร็จก็จะเกิดวงระเบิดขึ้นใต้เท้าผู้เล่นทันที ซึ่งผู้เล่นจะต้องรีบเคลื่อนหลบออกจากวงให้ไว

ขั้นที่ 2 - บอสจะเรียกมือยักษ์ดำออกมาผนึกตัวผู้เล่น ผู้เล่นที่ถูกผนึกนอกจากจะได้รับความเสียหายไปเรื่อยๆ แล้ว แถมยังไม่สามารถทำอะไรจนกว่าเพื่อนจะมาช่วยปลด ซึ่งเพื่อนที่มาช่วยปลดผนึกจะต้องมายืนในวงค่ายทั้งสองที่อยู่ข้างตัวเราถึงจะปลดผนึกให้ผู้เล่นได้

สกิล 4 : บทสวดเมตตาหยินหยาง
บอสจะปล่อยร่างแยกออกมา 8 ตัว โดยจะมีสองตัวที่บนหัวมีตัวหยินและหยาง และผู้เล่นจะต้องสังหารร่างแยกที่มีสัญลักษณ์หยินหยางทั้งสองตัว จากนั้นผู้เล่นที่สังหารได้จะมีสัญลักษณ์หยินหรือหยางบนหัว แล้วให้ผู้เล่นคนนั้นไปยืนในวงหยิน/หยางตามสัญลักษณ์บนหัวของตัวเอง แล้วจะทำให้บอสหยุดใช้สกิลแล้วอยู่ในสถานะอ่อนแอ

ข้อควรระวัง: 
- ภายในสกิลบทสวดเมตตาหยินหยาง ผู้เล่นจะโดนดาเมจต่อเนื่อง จนกว่าจะสังหารร่างแยกได้ 
- ร่างแยกทั้งแปดจะค่อยๆ เดินกลับไปหาร่างหลักของบอส หากไม่สามารถหยุดยั้งไว้ทัน บอสจะสร้างความเสียหายมหาศาลแก่ทั้งทีม 

บอสตัวที่ 3 : เม้งง้วยซิม
หญิงงามแห่งยุทธภพ ผู้ยอมทรยศวงศ์ตระกูลเพื่อกงจื้ออู้ รักแท้ของนาง นางเชี่ยวชาญในการใช้หุ่นเชิดเนื่องจากนางคืออดีตสมาชิกตระกูลตึง

สกิล 1 : สัมพันธ์มังกรคราม
บอสจะสร้างกำแพงผนึกออกมาขังผู้เล่น ผู้เล่นที่ถูกขังนอกจากจะได้รับความเสียหายแล้ว จะไม่สามารถใช้สกิลหรือเคลื่อนไหวอะไรได้เลย สามารถแก้ทางด้วยการกดสกิลคลายผนึก

สกิล 2 : หุ่นเชิดไร้ใจ
บอสจะบังคับให้หุ่นเชิดปล่อยอาวุธออกมาโจมตีรอบๆ ตัวหุ่นเชิดเป็นจำนวนสี่ครั้ง ขอเพียงแค่ออกห่างจากรัศมีการโจมตีได้ทันเวลาก็ปลอดภัยหายห่วง!

หมายเหตุ : นอกจากนี้บอสยังสามารถโจมตีผู้เล่นโดยการใช้มีดบินได้เช่นกัน

สกิล 3 : เข็มดารา
เมื่อเข้าสู่ระยะที่สาม บอสจะเรียกหุ่นเชิดออกมาอีกหนึ่งตัว และในระหว่างที่หุ่นเชิดยังอยู่จะไม่สามารถโจมตีตัวบอสได้ เมื่อหุ่นเชิดแยกออกจากกัน ตัวเลขที่ตัวจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ตัวเลขยิ่งมากความเสียหายที่สร้างก็ยิ่งรุนแรง) เมื่อหุ่นเชิดทั้งสองเดินเข้าหากันเมื่อไหร่ ก็จะสร้างความเสียหายและหมอกพิษขึ้นมา(หากไปโดนหมอกพิษจะได้รับความเสียหาย) แต่ตัวเลขบนหัวก็จะถูกรีเซ็ตกลับเป็น 1 ใหม่

ข้อควรระวัง: พยายามล่อหุ่นเชิดให้เข้าใกล้กันก่อนที่เลขดาเมจของหุ่นเชิดจะเพิ่มมากขึ้น

หมายเหตุ : เมื่อฆ่าหุ่นเชิดครบสองตัว หุ่นเชิดจะยังไม่ถูกทำลาย บอสจะยิงมีดบินจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งจะมาร์กหัวผู้เล่นทุกคน โดยผู้เล่นทุกคนจะต้องหลบอยู่หลังหุ่นเชิด และมีดบินจะฆ่าหุ่นเชิดแทน

สกิล 4 : ปลิดวิญญาณ
บอสจะบังคับหุ่นเชิดเข้ามาโจมตีใส่ตัวผู้เล่น ซึ่งจะสร้างความเสียหายเป็นระยะกว้าง ผู้เล่นที่ตกเป็นเป้าหมายต้องพยายามออกห่างจากผู้เล่นคนอื่น

สกิลลับ: ในดันเจี้ยนวังซิ่วที (ยาก) เม้งง้วยซิมจะใช้วิชาลับโดยการปามีดบินทั่วทั้งดันเจี้ยน ผู้เล่นสามารถวิ่งหลบหรือกระโดดหลบท่าลับนี้ได้

บอสตัวที่ 4 : กงจื้ออู้
น้องชายของผู้นำพรรคมังกรครามซิ่มโกวฮง และเป็นคนรักของเม้งง้วยซิม

สกิล 1 : บทสวดเมตตาทั้งเจ็ด
บอสจะสร้างกำแพงมนตร์ขึ้นมาแยกผู้เล่นออกไป ผู้เล่นจะต้องรีบไปหาค่ายกลเพื่อเข้าไปโจมตีบอสที่อยู่ในกำแพง เพราะระหว่างที่อยู่นอกกำแพงก็จะได้รับความเสียหายไปเรื่อยๆ หลังจากที่เข้าไปในกำแพงมนตร์แล้วให้รีบโจมตีทลายเกราะของบอส เมื่อเกราะบอสแตก กำแพงจะหายไป

เพิ่มเติม: ครั้งแรกที่บอสใช้สกิลนี้ให้เลือกเข้าเนตรกลที่ 1 แต่รอบถัด ๆ ไปจะไม่มีรูปแบบที่แน่นอน ผู้เล่นต้องหาเนตรกลที่ถูกต้องด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังต้องคอยระวังร่างแยกที่ไล่โจมตีเราขณะที่กำลังตามหาเนตรกลด้วย
 

สกิล 2 : ปักษาขนจรัส
บอสจะล็อกเป้าผู้เล่นจำนวน 2 เป้าหมาย แล้วโจมตีด้วยขนนกยูง ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับผู้เล่นเป็นจำนวนมาก

ข้อแนะนำ:  ให้ผู้เล่นที่ถูกล็อกเป้าแยกตัวออกจากเพื่อน จากนั้นในช่วงก่อนที่ขนนกยูงจะตกใส่เราให้จับจังหวะกลิ้งตัวออกจากวงโดยเร็ว

สกิล 3 : กระบวนท่าหกดารา
บอสจะเรียกระเบิดคลื่นสมุทรออกมาเป็นวงกว้าง ผู้เล่นที่อยู่ในวงจะได้รับความเสียหาย

สกิล 4 : กระบวนท่าสุดท้ายของบอสก่อนตาย
บอสจะล็อกเป้าและทำการสังหารผู้เล่นในทีมทีละคน ผู้เล่นที่ถูกล็อกเป้าจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ผู้เล่นคนอื่นๆ ในทีมจะต้องช่วยกันโจมตีบอสให้ตาย ไม่เช่นนั้นทีมจะพ่ายแพ้เนื่องจากผู้เล่นตายยกทีม

คำเตือน:  ช่วงที่ HP บอสเหลือน้อยจนใกล้จะแพ้ บอสจะล็อกเป้าผู้เล่นแล้วเดินเข้าไปสังหารทีละคน โดยบอสจะมีค่าเกราะเพิ่มขึ้นมาด้วย ทำให้ฆ่ายากกว่าดันทั่วไปมาก ผู้เล่นที่เหลือจะต้องสังหารบอสให้ทันก่อนที่บอสจะเดินเข้าไปสังหารเพื่อนสำเร็จ